เมนู

บทว่า เอวมชฺฌิมฺหิ จ ตสฺสาสิ ความว่า อาศรมที่พระดาบส
เนรมิต สร้างจนสำเร็จนั้นอยู่ในระหว่างท่ามกลางภูเขาโคตมะนั้น. คำที่
เหลือมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปทุมปูชกเถราปทาน
จบอรรถกถาเสเรยยวรรคที่ 13

รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ


1. เสเรยยกเถราปทาน 2. ปุปผถูปิยเถราปทาน 3. ปายาสทายก-
เถราปทาน 4. คันโธทกิยเถราปทาน 5. สัมมุขาถวิกเถราปทาน
6. กุสุมาสนิยเถราปทาน 7.ผลทายกเถราปทาน 8. ญาณสัญญกเถราปทาน
9. คันธปุปผิยเถราปทาน 10. ปทุมปูชกเถราปทาน. บัณฑิตผู้เห็นแจ้ง
อรรถ รวมคาถาไว้ 105 คาถา.
จบเสเรยยวรรคที่ 13

โสภิตวรรคที่ 14


โสถิตเถราปทานที่ 1 (131)


ว่าด้วยผลแห่งการฟังอาสภิวาจา


[133] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ เชษฐบุรุษของโลก
ประเสริฐกว่านระ ทรงแสดงอมตบทแก่หมู่ชนเป็นอันมาก.

เวลานั้น เราได้ฟังพระดำรัสอาสภิวาจาที่พระองค์เปล่ง
แล้ว ประนมกรอัญชลี เป็นผู้มีใจเป็นอารมณ์เดียว (กล่าว)

สมุทรเลิศกว่าทะเลทั้งหลาย เขาสุเมรุประเสริฐ
กว่าเขาทั้งหลาย เป็นที่สั่งสมหิน ฉันใด ชนเหล่าใด
ย่อมเป็นไปตามอำนาจจิต ชนเหล่านั้นย่อมไม่เข้าถึง
เสี้ยวแห่งพระพุทธญาณ ฉันนั้น.

พระพุทธเจ้าทรงเป็นฤาษีประกอบด้วยพระกรุณา ทรงหยุด
การแสดงธรรม ประทับนั่งในท่ามกลางสงฆ์แล้ว ได้ตรัส
พระคาถาเหล่านี้ว่า

ผู้ใดสรรเสริญพระญาณในพระพุทธเจ้าผู้นำของโลก ผู้นั้น
จะต้องไม่ไปสู่ทุคติตลอดแสนกัป.

ผู้นั้นจักเผากิเลสทั้งหลายได้แล้ว จักเป็นผู้มีอารมณ์เดียว
มีจิตมั่นคง จักได้เป็นสาวกของพระศาสดา มีนามชื่อว่าโสภิตะ.

เราเผากิเลสได้แล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว วิชชา 3
เราบรรลุแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว.